อาการปวดเบ้าตาเกิดจากอะไร มีวิธีรักษาอย่างไร
อาการปวดเบ้าตาหรือปวดกระบอกตา จะมีลักษณะปวดหน่วงเข้าที่บริเวณเบ้าตา บางครั้งอาจเกิดจากการปวดตึงบริเวณดวงตาหรือศีรษะ ส่งผลให้เกิดโรคเกี่ยวกับศีรษะและดวงตาได้ ซึ่งถ้าหากผู้ที่มีอาการปวดบริเวณเบ้าตาอยู่กระบอกตานี้ มีอาการปวดที่รุนแรง อาจมีไข้หรือดวงตามองเห็นภาพไม่ชัดเจนให้รีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที เพื่อการรักษาได้อย่างทันท่วงที และวันนี้เราก็จะพาทุกท่านไปรู้จักอาการปวดเบ้าตาซึ่งจะมีความอันตรายและมีสาเหตุมาจากอะไรนั้น ไปดูกันเลย
อาการปวดเบ้าตา เกิดจากอะไร?
การปวดเบ้าตา เป็นอาการที่สามารถวินิจฉัยโรคได้หลากหลายโรค โดยส่วนใหญ่โรคและอาการที่ส่งผลให้เกิดอาการปวดเบ้าตาจะมีดังต่อไปนี้
1.อาการปวดศีรษะ
อาการปวดศีรษะอาจเป็นสาเหตุทำให้ปวดเบ้าตาได้ โดยส่วนใหญ่แล้วอาการปวดศีรษะจะมีสาเหตุมาจากความเครียด ส่งผลให้มีอาการปวดร้าวไปที่ด้านหลังดวงตา ซึ่งอาการปวดศีรษะจะมีอาการปวดร้าวไปที่หน้าผาก หลังศีรษะ และบริเวณลำคอร่วมด้วย บางครั้งอาการปวดศีรษะที่เกิดจากความเครียดนั้นจะมีอาการปวดหัวตุ๊บๆ ข้างเดียว หรือมีอาการปวดแบบไมเกรน นอกจากนี้ อาการปวดศีรษะบางครั้งจะมีอาการไข้ ตาแดง น้ำตาไหล และใบหน้าบวมแดงร่วมด้วย
2.ไซนัสอักเสบ
เป็นอาการปวดบริเวณโพรงจมูก ทำให้มีอาการจมูกบวม มีน้ำมูกเหนียวหนืด ซึ่งอาการไซนัสอักเสบนี้จะมีอาการปวดบริเวณด้านบนใบหน้า ทำให้มีอาการปวดร้าวไปที่ด้านหลังของดวงตา นอกจากนี้จะมีอาการปวดบริเวณจมูก โหนกแก้ม ไอปวดศีรษะ และปวดหัวร่วมด้วย
3.โรคเกรฟส์
เป็นโรคที่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันที่ทำลายตัวเอง ทำให้มีการปล่อยฮอร์โมนไทรอยด์ออกมามากจนเกินไป ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณดวงตาโปน และปวดไปที่ด้านหลังของดวงตา ซึ่งโรคนี้จะมีอาการปวดตา มีความรู้สึกดังเหมือนมีอะไรอยู่ในตา เปลือกตาแดง ตาบวม และทำให้สูญเสียการมองเห็น โดยโรคนี้จะมีอาการแย่ลงหากมีการเคลื่อนไหวบริเวณดวงตา
4.เส้นประสาทตาอักเสบ
อาการเส้นประสาทตาอักเสบมีสาเหตุมาจาก โรคแพ้ภูมิตัวเองหรือเกิดจากการติดเชื้ออื่นๆ ทำให้เกิดอาการบวมและมีอาการปวดตื้อๆ บริเวณด้านหลังดวงตา ทำให้มองเห็นภาพไม่ชัดเจน บางครั้งอาจทำให้มองเห็นภาพยังไปแฟลชสีขาว โดยส่วนใหญ่แล้วโลกนี้จะสูญเสียการมองข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง
5.ม่านตาอักเสบ
มีสาเหตุมาจากการอักเสบของสิวบริเวณดวงตาหรือลูกตาสีดำ ทำให้มีอาการปวดลึกไปที่ดวงตา ส่งผลให้มองเห็นไม่ชัดเจน และมีอาการแพ้แสง
6.ได้รับบาดเจ็บบริเวณดวงตา
การบาดเจ็บบริเวณดวงตาหรือเกิดการกระทบกระเทือนที่ดวงตา มีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับดวงตาทำให้ได้รับการบาดเจ็บหรือเกิดกระจกตาถลอก
วิธีตรวจหาความผิดปกติของอาการปวดเบ้าตา
ในปัจจุบันการหาสาเหตุของอาการปวดเบ้าตา มีวิธีการตรวจที่หลากหลายสาเหตุที่จะทำให้รู้ถึงสาเหตุที่ทำให้ปวด ซึ่งมีวิธีการดังต่อไปนี้
1.การตรวจตา ในบางครั้งแพทย์อาจจะทำการตรวจด้วยวิธีการส่องไฟฉายดู หรือตัวแบบใช้วิธีการวัดสายตา
2.วิธีการส่องกล้องตรวจ ด้วยการทายาชาที่จมูกแล้วติดกล้องไว้ที่ท่อโดยการสอดท่อเข้าไปบริเวณจมูก
3.การถ่ายภาพด้วยวิธี MRI Scan CT Scan หรืออัลตร้าซาวด์
4.ใช้สารกัมมันตรังสีไอโอดีน แพทย์จะทำการฉีดสารเข้าไปในร่างกาย แล้วถ่ายภาพด้วยกล้องชนิดพิเศษ
แนวทางรักษา เมื่อมีอาการปวดเบ้าตา
การรักษาเมื่อมีอาการปวดเบ้าตา มีวิธีการรักษาที่หลากหลายวิธี และแตกต่างกันออกไป ซึ่งมีแนวทางในการรักษาดังนี้
- รักษาด้วยวิธีการรับประทานยา
- รักษาด้วยวิธีการใช้ยาหยอด
- รักษาด้วยวิธีการผ่าตัด ในกรณีที่อาการรุนแรง
- รักษาด้วยวิธีการใช้เลเซอร์
หากท่านมีอาการปวดบริเวณเบ้าตา ลำดับแรกที่ท่านต้องทำคือ การไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุที่เกิดขึ้น แต่โดยส่วนใหญ่แล้วซื้อยามารับประทานเอง ซึ่งเป็นวิธีการแก้ปัญหาในเบื้องต้นที่ไม่ถูกต้อง ทำให้อาการมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น เพราะในบางรายส่งผลให้ไม่สามารถมองเห็นได้ หรือมองเห็นได้ไม่ชัดเจน จึงทำให้ยากที่จะแก้ไขได้นั่นเอง เพราะอาการที่ยิ่งปล่อยไว้นานมักจะเกิดการเรื้อรังจนทำให้รักษาได้ยากในที่สุด